บทความแนะนำอ่าน:D

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รีวิว BB Cream ตัวไม่ดัง แต่ขั้นเทพพพ

  หายได้ 2 เดือนนนนนนน คุณพระ!!! นี่อิฉันยุ่งขนาดที่ไม่มีเวลารีวิวเครื่องสำอางที่รักมา 2 เดือนเลยรึนี่ โอ๊ยย อกอีแป้นจะแตกกระแทดแร่ดเจ้าค่าาา

    กราบสวัสดีทุกๆท่านอีก 1 รอบ มารายงานตัวแล้วค่ะ   หลังจากที่ห่างหายไปนาน คราวนี้อิฉันจะมาพูดถึง Foundation ให้หนำใจไปเรยยยย  เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มาเขียนบล็อกไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ลองอะไรใหม่ๆนะคะ  ซุ่มอยู่ๆ อิอิ  ไหนๆก็ไหนๆ เริ่มกันเลยดีกว่า!!!!!!!



      ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า First Impression ของหนังหน้าเราเวลาคนมองนั้น ไม่ได้อยู่ที่อายแชโดว์ การคัดเว้า ขนยางอนเป็นแผง ปากแดงเหมือนเลือดนกนะคะ  แต่..แต่อยู่ที่พื้นผิวหรือTexture ของใบหน้าเราค่ะ  ใครๆก็ชอบมนุษย์หน้าใสไร้สิว คงไม่มีใครอยากมองหลุมดวงจันทร์ที่โดนบุกกายาตหล่นทับมาอีกที (....เอ่อ อันั้นก็เว่อไปนี๊สสส)  เอาเป็นว่าสภาพผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเป็นขั้นแรกขั้นพื้นฐานของการแต่งหน้าเลยทีเดียวค่ะ 

      แต่การจะมีผิวหน้าดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงด้วยค่ะ ( รีวิวSkin care http://ninenile.blogspot.com/2013/04/review-skincare.html ) แต่นอกจากการบำรุง ก็มาถึงขั้นตอนแต่งหน้า ซึ่งคงหนีไม่พ้นเบส บีบี ซีซี รองพื้น  ที่จะเนรมิตหลุมดวงจันทร์ให้กลายเป็นฟองน้ำสก็อตไบรท์
  วันนี้อิฉันจะมาพูดถึงเรื่องของเบส และบีบี เป็นอันดับแรกค่ะ  เนื่องจากนักศึกษาเรียบร้อย ( ช่ายยหรอออ) ก็ชอบการแต่งหน้าแนวใสๆ เบาๆ แบบตื่น 8 โมงเรียน 8 โมงครึ่งแล้วหน้ายังเป๊ะอยู่ได้ อะไรแบบนั้น
ซึ่งจุดนี้ตัวที่ตอบโจทย์ที่สุดคงเป็น BB Cream หรือฝรั่งเรียกว่า Beauty balm นั่นแล


       เจ้าตัวบีบีนี้ต่างจากรองพื้นยังไง??? คำถามยอดฮิตมากกกกก  บอกเลยว่าต่างตรงที่บีบีผสมทุกอย่างตั้งแต่ครีมบำรุง ครีมกันแดด มอยเจอร์ไรเซอร์ รองพื้น เอาเป็นว่ารวมทุกอย่างที่หนังหน้าต้องการมาไว้ในหนึ่งเดียว!!!!  




                                                            อะไรจะวิเศษปานฉะนี้!!!!!!!!!

วันนี้ขอนำเสนอบีบี 3 ตัวเรียงตั้งแต่ราคาต่ำไปสูง กันเลยทีเดียวค่ะ

1.Maybelline clearsmooth BB cream 





ราคา  ตอนซื้อ 199 บาท ( ไม่แน่ใจโปรโมชั่นรึป่าว)

Texture :   ตัวนี้เนื้อจะกลางๆนะคะ ไม่เหลวไม่ข้น สีจะออกแทนๆนิดนึงคือคนผิวขาวโอโม่น่าจะไม่มีเฉดสีที่โอเคให้

สัมผัสในการใช้ :  รู้สึกหนักนิดๆในความรู้สึก แต่การปกปิดโอเคเลยค่ะ การปกปิดรู้สึกเหมือนรองพื้น คือปิดไปเลย เรียบๆเนียนๆ ไม่มีการแง้มให้เห็นผิวใสๆของเรา อะไรแบบเกาหลี แมตๆ ไม่วิ้ง ไม่ดิวอี้ ใครที่ชอบอารมณ์รองพื้นเรฟลอน หรือความเนียนไม่ต้องสงไม่ต้องใส น่าจะชอบตัวนี้ค่ะ  แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบโทนสี เราว่ามันมืดๆไปหน่อย ระหว่างวันมีการดรอปลงของสี หน้าจะมืดลงค่ะ และมันบริเวณทีโซน แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้วค่ะ


2. Ettusais mineral white 



ราคา  980 แต่ซื้อที่ eve and boy 670 บาทค่ะ

Texture  :  ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่าใช้แล้วผิวเหมือนเด็ก เนื้อจะไม่หนาค่ะ พอดีๆ หนึบนิดๆสไตล์ครีมกันแดดเยอะ  จริงๆสูตรนี้เป็นสูตรที่ 2 สูตรก่อนหน้านี้จะไม่มีคำว่า White คือเป็น mineral เฉยๆหลอดสีชมพู ความแตกต่างของเนื้อคือ ตัวเก่าจะกันแดดน้อยกว่า ทำให้เหลวกว่า(แต่ไม่เหลวแบบน้ำนะคะ) ทำให้เกลี่ยง่ายกว่าตัวนี้ค่ะ แต่..แต่ แต่ตัวนี้ปกปิดเนียนกว่าค่ะ

สัมผัสเวลาใช้ :  จะรู้สึกเบาๆค่ะเหมือนทาครีมกันแดด แต่เพิ่มออปชั่นการปกปิดขึ้นมา พอทาแล้วก็จะเนียนแบบผิวเด็กจริงๆ คือรูขุขมขนดูเล็กลง และดูแบบเห้ยยยย....หน้าเนียน แต่ไม่แมตนะคะ แบรนด์นี้ของญี่ปุ่น สไตล์เค้าจะแย้มผิวให้เห็นของจริงบ้างอะไรบ้าง ใครที่หลุมเยอะๆ ไม่ต้องการแง้มผิว ตัวนี้น่าจะไม่ใช่ทางเลือก แต่ใครที่แบบว่ามั่นหน้า (แบบดิชั้น 0.0) น่าจะชอบตัวนี้ค่ะ เริ่ด ตกบ่ายก็จะมันบริเวณทีโซนนิดหน่อยค่ะ แต่หน้ายังใสเอ๊าะอยู่ แต่มีข้อเสียที่รู้สึกว่าบีบีไม่ค่อยติดหน้า คือตกเย็นเหมือนมันจะหายไปแล้ว  ประหนึ่งหน้าไม่มีบีบีมาก่อน  ดังนั้นอันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเฉพาะอิฉันหรือคนอื่นก็เป็นด้วยค่ะ  ดังนั้นเมื่อเทียบกับราคาก็ 50 50 ค่ะ



                             สภาพหน้าตอนทาไปประมาณ 4 ชั่วโมงอยู่หน้าเตาชาบูมาแล้ว 1 ชั่วโมงครึ่ง



3.Shu Uemura BB cream

ราคา : 1600 บาท 0.0!!
Texture : เหลวๆค่ะ ไม่หนืด แต่ปกปิดดีมากกกก  และเบามากกก แบรนด์นี้เป็นแบรนด์พรีเมี่ยมของญี่ปุ่นค่ะ ราคาจึงสูงและ high performance มานิ่งๆนานๆ ตัวนี้พอใช้แล้วจะรู้เลยว่าเนื้อเหลว เกลี่ยง่าย ไม่ซึมไว และได้ลุดโกลว์
สัมผัสเวลาใช้ : รู้สึกง่ายค่ะ แบบเอาออกมานิดเดียว เกลี่ยๆ เสร็จ ไม่ต้องบี้ ไม่ต้องนวดวนๆนาน แป๊บเดียวเริ่ด  และส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบลุคแมต ชอบแบบโกลว์หน่อยๆ ตัวนี้เลยตอบโจทย์เลยค่ะ แต่ข้อเสียคือ..ราคา!!!!  ช่วงโหดหินทมิฬใจอะไรเช่นนี้  ดังขูดรีดเลือดมาซื้อกันเลยทีเดียว  แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่า บีบนิดเดียวก็ทั่วหน้า หลอดนึงใช้ได้นาน ก็พอกล้อมแกล้มอดรับประทานอาหารแล้วควักตังค์จ่ายได้ สำหรับคนที่ยอมอดรับประทานนะคะ แต่อิฉัน อดไม่ได้ ฮืออออ T_T

     


                                                     สภาพหนังหน้าตอนใช้ Shu BB cream ค่ะ


       จบแล้วนะคะสำหรับรีวิวบีบี ที่ทำให้ผิวสวยใสสไตล์นักเรียนได้แบบไม่เว่อร์ไม่วอกและไม่แก่จนเกินไปค่าาา  ใครที่ชอบลุคใสๆ สบายผิว ลองใช้ตัวบีบีก่อนได้ แล้วค่อยพัฒนาเป็นเรียบเนียนสนิทแบบรองพื้นนะคะ  สำหรับการรีวิวครั้งนี้ สอนให้รู้ว่าของถูกและดียังมี  แต่ของแพงที่ดีมันดั๊นนนดีกว่า
ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ลองชั่งใจดูสักนิดว่าต้องการปกปิดแค่ไหน (ทั้งปกปิดสภาพหน้าและปกปิดสภาพบัญชี *.*)  แม้ว่าบีบีราคา 1 พันกว่าจะขั้นเทพพพ  แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นเทพได้  ดังนั้นถ้าไม่อยากใช้ของแพง แต่คุณภาพรับได้ก็ลองตัวเลือกที่ตามมาค่ะ  หรือใครมีตัวอื่นที่เจ๋งงง ก็มาแชร์กันได้เลยนะคะ อิชั้นจะตามไปลองบ้างงง  แต่ถ้าหากคุณ!! ต้องการความเจ๋งงสนิท แบบชีวิตไม่โอเคถ้าหน้าไม่ดี  ก็อดอาหารให้เต็มที่ จะได้มีดีทั้งสวยทั้งผอม เอ้าา  เฮ้!!!!!!!!

     ลองคิดดูเล่นๆกันน +++

199 บาท        ข้าว   5    มื้อ     อยู่ได้     1    วันครึ่ง
980 บาท        ข้าว   32  มื้อ      อยู่ได้    1    สัปดาห์
1600 บาท      ข้าว   53  มื้อ      อยู่ได้     ครึ่งเดือน

         เห็นภาพการอดข้าวชัดๆแล้วนะคะ  ที่นี้ก็จัดไปเลยยยย ( หรือจะไม่จัดดีน่ะ)


                                                          พบกับรีวิวครั้งหน้ากับ Lipstick ทุกเฉดสี ว๊าว ว๊าว ว้าววว