บทความแนะนำอ่าน:D

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

     เที่ยวกันพอหอมปากหอมคอแล้ว  วันนี้จะมาพูดถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการใช้ชีวิตใน NYC กันบ้างนะคะ    มาเริ่มกันที่สิ่งที่ดีที่สุดใน นิวยอค ซิตี้ กันเลยดีกว่า  แต๊ แด่...



       Subway เย เย เย ( ขอมีเอคโค่ส่งเสริมความเด่นหน่อยนะคะ)   อย่างที่ทราบดีกันว่าซับเวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของชาวนิวยอคเกอร์ เพราะการใช้รถที่นี่ นอกจากจะต้องเบรคบ่อย ไปไม่ทันใจในระยะทางใกล้ๆแล้ว สิ่งที่ทำให้คนจำนวนมาก ที่แม้จะมีตังค์เยอะมาก ยังคงเลือกใช้ซับเวนั้น เพราะที่จอดรถค่ะ ที่จอดรถใน NYC ราคาแพงมาก คิดเป็นชั่วโมง และชั่วโมงนึงประมาณ 30 เหรียญคิดดูว่าถ้าจอด 5 ชั่วโมง ก็เสียไปแล้ววันละ 150 เหรียญ ต้องมีเงินพอสมควร และจำเป็นเลยล่ะค่ะ คนที่นี่ถึงจะยอมใช้รถกัน  แล้วพอมาเทียบกับซับเว  บัตร Metro ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ จ่ายรายเที่ยว  Unlimited 7 days pass  และ 30 days pass  ราคาก็จะเป็น   30 และ 112 เหรียญตามลำดับค่ะ   โดยเราเลือกเติมเงินเพื่อ Refill  Add value หรือ Add Time ก็ได้ตามใจผู้บริโภคเลยจ้าา
        แต่ว่าาา แม้ซับเวจะสะดวก สบาย หายห่วง แต่ไม่ใช่ทุกขบวนจะเป็นแบบที่เราคิด  เพราะคนส่วนมากมักจะมโนว่าซับเวนิวยอคเป็นแบบนี้...


แต่ความจริงคือ.....

55555 เงิบอ่ะดิ (อุ๊ย กลับสู่โหมดสุภาพสตรีต่อ)  แล้วนอกจากนี้ อาจจะมี Homeless (อย่าไม่กังวลเข้าไม่เข้ามาชาร์จคุณหรอกค่ะ)  หรือมีกลิ่นอ้วก  หรืออาจมีเศษอ้วกตามพื้น  น้ำนอง ขวดเหล้า คนขี้เม้าธ์ ลุงหลับ  และที่แย่ที่สุดคือ กลิ่นเต่า โดยเฉพาะสาย 7 สายที่เป็นเส้นทางกลับบ้านของชุมชนชาวละติน เม็กซิกัน เพียงแค่ประตูซับเวเปิดเท่านั้น คุณพระ!!!  คุณจะผงะ ถอยหลัง เชิดหน้าขึ้น เพราะกลิ่นมันอึบมากกก  ถ้าใครยังจินตนาการกลิ่นไม่ออก บอกให้ว่ากลิ่นเหมือนขี้หมูเลย (จริงมากกๆๆๆ มีเพื่อนยืนยันหลายคนนะคะ)   แต่พออยู่ไปสักเดือนก็จะชินค่ะ ชิวๆ โน๊ะ

        พอซื้อบัตรแล้วก็สไลด์ผ่านตรงประตูขึ้นบันได ลงบันไดได้เลย แต่ แอ๊ะๆๆๆ  อย่าลืมเด็ดขาดว่าคนช้าชิดขวา  คนที่เค้าเร่งรีบจะเดินต่อไปเรื่อยๆเค้าจะเดินทางซ้านกันนะคะ    พอขึ้นซับเวมา  ถ้าเป็นวันจันทร์ตอนเช้า จะเป็นวัน น ร ก มากก เพราะคนจะเบียดเสียดด ความเครยีดจากการกลับมาทำงานอีกครั้งจะพุ่ง อะดรินนาลินจะหลั่ง และกลิ่นจะแรงกว่าเก่าอี๊กกก   ถ้าคุณไปเบียดเค้ามาก ไปกระแทกหรือทำอะไรห่ามๆ นอกจากจะโดนด่าแล้ว อาจจะมีเรื่องกันก็ได้  และถึงแม้ว่าเราชาวไทยใจกล้าดั่งมหาสมุทร แต่พอเจอกล้ามใหญ่ใส่เสื้อกุด ก็ยอมเป็นตุ๊ดไปก่อนเถอะค่ะ *_*



        ส่วนใครที่เป็นห่วงเรื่องอ้วนนน ( สาวๆทุกคนโปรดฟัง) การอ้วนนั้น อาจเป็นเพราะการกินเบอร์เกอร์ทุกมื้อ กินไอศกรีมบ่อย หรือช็อคโกแลต ของหวาน  แต่นิวยอคจะไม่เหมือนเมืองอื่นตรงที่ ของกินมีให้เลือกเยอะมากค่ะ  สำหรับคนไทยยิ่งเข้าทาง เพราะอาหารเอเชียนั้นเยอะและไม่แพงอย่างที่ใครๆพูดมา แถมอร่อยด้วย โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น อิอิ   ประกอบกับการวิ่งขึ้นลงซับเว เบียดคนจีน แย่งกันซื้อของเซลล์ เดินเร็วๆข้ามถนน  ความอ้วนนั้นก็ไม่ค่อยจะได้แอ้มชั้นหรอกนะ โถ่วว ( ป่าว ความจริงคืออ้วนอยู่แล้ว T_T)  

   

อันนี้เป็นร้านชาวไทยค่ะ ร้านนี้มีทั้งอาหารตามสั่ง และชาบูแบบน้ำแจ่วฮ้อน อร่อยมากก อยู่ตรงสถานี Elmhurst สาย R ขึ้นจากทางออก South เดินตรง ร้านจะอยู่ทางขวามือค่ะ


    ส่วนอันนี้ขวัญใจวัยรุ่นไก่ทอด Bon Chon สาขาไทม์สแควร์ ไปยากนิดนึง แต่อร่อยกว่าที่ไทยอีกนะจะบอก  โดยเฉพาะเฟรนฟราย ที่ชุบกับเกร็ดขนมปังก่อนทอด ทวีความกรอบ แบบกัดแล้วเสียงดัง กรึ๊กก แกร๊กกก



  เรื่องต่อไปคือ การอยู่บ้านที่นิวยอคค่ะ  บ้านต้องแยกขยะเสมอ  เพราะถ้าขยะปนกัน เช่น เอากระดาษปนกับพลาสติก งานจะงอก   เพราะเทศบาลจะมาตรวจ แล้วเจอใบสั่งเก็บค่าปรับ ราคานั้น หึ หึ เป็นร้อยเหรียญเลยนะคะ  ถ้าไม่อยากเสียตัง เสียเวลาแยกขยะสักนิด ชีวิตมีตังใช้น้าค้าาาา



        อ่านมาตั้งนาน มีแต่เรื่องอะไรอะ สาระไปปร๊าาาา  เราชาวนิวยอคเกอร์ Work hard Play Hard ได้ปร๊าาาา  แน่นอน วลีนี้ เป็นวลีประจำใจของนิวยอคเกอร์เขาเลยค่ะ  เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ มีค่าใช้จ่ายเยอะมากก ไม่ว่าค่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าปรับ 555 ค่าช้อปปิ้ง T_T ค่านู้นนี่นั่น ลำพังงานเดียวไม่พอยาไส้  เขาจึงทำงานกัน 2-3 Jobs กันเลย  บางคนนั้นทำานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อเงินที่เพิ่มขึ้น  เช่น ที่ร้านเรา หนุ่มชาวละติน จะทำงานปิดร้านถึง 4 ทุ่มครึ่ง  แล้วมาเตรียมของ สั่งผัก สั่งน้ำสลัดตั้งแต่ตี 3 ได้นอนเพียงแค่ 3-4 ชั่วโมงก็ยอมเพื่อ Overtime  ดังนั้นเวลาที่เขามีงานเลี้ยงฉลองอะไรก็ตาม นางจะใส่ไม่ยั้ง นางจะสนุกสุดเหวี่ยง นางจะเมาปลิ้นลิ้นจุกปาก เลยล่ะค่าาา


       
        ภาพวัน Mermaid day  วันที่เดินขบวนแต่งตัวเป็นนางเงือก  แต่ปรากฎว่าคนเดินขบวนจัดใหญ่จัดเต็มกว่าเงือกในขบวนอีกจ้าา
 
                                             ลุงคนนี้โชว์เหนือด้วยการเอากล้ามปูมามัดเป็นมงกุฎ

ส่วนหาดที่เขาเดินขบวนกันนี้คือ Coney Island ค่ะ  หาดนี้ดังที่สุดใน NYC เพราะมาไม่ยากนั่งสุดสาย F Q N  แต่จริงๆแล้วสวยสู้หาดบ้านเราไม่ได้เลย  แถมน้ำยังเย็นเฉียบ ส่วนมากมาอาบแดดกัน ( แล้วเราจะอาบไปทำไมคะแดด มาครีม Whitening มาค่อนชีวิตเพื๊ออออ)

สรุปมาเดินร้อนๆ ไม่ลงน้ำ เพื๊อออออ



ถ่ายรูปสวยๆค่ะ อิ๊ อิ๊    แต่ใครจะรู้ว่าเป้าประสงค์แท้จริงในการมาบีชนั้น คื๊อออ ผู้ชายแซ่บมากก ในตัวเมืองหามิได้แบบนี้ 55555  แต่ละคนแซ่บจริง หันซ้ายหันขวา อุ๊ย ขาเปลี้ยรู้สึกเพลียแดดขึ้นมาดื้อๆ อะฮิ อะฮิ

   และเกร็ดสุดท้ายในวันนี้คือ การดูหนังในนิวยอค  เห้ย Topic ธรรมดาไปปร้ะ  ป่าวเลยจริง จริ๊งงง เพราะตอนแรกเรามโนว่า เห้ยย โรงหนังในนิวยอค มันต้องแหล่มอ่ะ มันต้องใหญ่เว่อวังอลังการ มันต้องสวยแบบหลุยส์สุดๆ ผ้าม่านนี่นำเข้าจากอินเดีย  เบาะแบบ Made in USA  และยิ่งพอซื้อตั๋วดูหนัง ราคาครั้งละ 15 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยก็ดูครั้งละ 500 บาท โห มันต้องจี๊ดแน่อ่ะ   แต่ความจริง ..


ประมาณนี้เลยค่ะ   ที่นั่งก็ธรรมดา  ตกแต่งธรรมดา โรงเล็กกว่าบ้านเรา จอเล็กกว่าด้วยค่ะ ร้องไห้ แป๊บบบ  เป็นโรงหนังที่เข้าไปนั่งจับจองที่กันเอง  เอาซาลาเปาไปกินก็ได้ เคยเห็นคนยกถาดพิซซ่ไปนั่งกิน  แหม ถ้าขนาดนี้ ไม่นั่งยกเข่า ก๊งเหล้าเลยล่ะพี่ เอ้า เห้ยย ขวามือมีคนถือขวดเบียร์มาว่ะ TT_TT  โอเค โรงหนังกลางไทม์สแควร์ อนิจจัง กลางแปลงสุดๆ  เท่านั้นยังไม่พอ  ด้วยความที่โรงหนังที่ไทยนั้น ซื้อบัตรเที่ยวเดียว ดูได้เรื่องเดียว  แต่ที่นี่เหนือชั้น ถ้าคุณเก๋าพอ เช็คตารางหนังมาจ้าา เค้าตรวจบัตรแค่ขาเข้า ทางเข้าเท่านั้น  โรงในนั้นเป็นของคุณ จะดูกี่เรื่อง เข้าไปเลย มันไม่มีใครเช็ค ดังนั้น ถ้าคุณใจกล้าพอ ดูไปเลย 4 เรื่อง เอาให้คุ้ม ฮึบบบ เฮ้!!!

 




วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Work and Travel ตอนที่ 2 เที่ยวยังไงให้เก๋ไก๋ใน New York City

      หลังจากที่เราได้ไปเที่ยวตรงกลางมาแล้ว  คราวนี้ก็ถึงเวลาลงใต้กันแล้วนะคะ  เริ่มจาก
5. 14 St. Union Sq. จัตุรัสที่อบอุ่นที่สุดในนิวยอค


จาก Elmhurst  เดินทางมาที่ยูเนียนแสควร์ ง่ายๆค่ะ นั่งสาย R ยาวๆมาเลยก็ได้ หรือจะนั่งสาย 7 มาลงที่ Grand central แล้วต่อสาย 4 5 6 สีเขียวลงมาก็ได้ค่ะ  เพราะยูเนียนสแควร์ถือเป็นจุดเปลี่ยนสถานีใหญ่พอตัว    แถวนี้ถ้าเป็นวัน พุธ พฤหัส จะมีตลาดนัดเล็กๆ ขายของ Homemade ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ แยม เมเปิ้ล น้ำผึ้ง หรือรูปวาดอาร์ต  วันอาทิตย์ก็จะมีตลาดนัดแบบติสๆให้เดินดูกันด้วยคะ  

       รอบๆบริเวณนี้จะเป็นร้านหนังสือชื่่อดัง Barns and noble  sephora  Forever21 และอื่นๆอีกมากมาย  ถ้าเดินไปตามซอกซอยก็จะมีร้านดัง และร้านอาหารอีกค่ะ  จัตุรัสนี้จะออกแนว ชิวๆ เดินสบาย ไม่เครียดผู้คนไม่เร่งรีบ และไม่เยอะเหมือนกับ Central Park นอกจากนี้ใครที่ชอบช้อปปิ้งยังสามารถไปชอปได้ที่ Berington หรือ Nordstorm Rack ซึ่งเป็น Department store ที่มีแบรนด์ต่างๆ ทั้งถูกมากกก และแพงมาก ( ส่วนใหญ่อยู่ Nordstorm ) ดังนั้น ถือว่าเป็นจัตุรัสที่ครบครันทีเดียว
       แถวนี้ร้านดังจะมีร้าน Max & Berner ร้านช็อคโกแลตที่อร่อย และหลากหลายเมนูให้เลือก  เมนูฮิตคือ Fondue ที่กิน 2 คนค่ะ แล้วมาชเมโลวที่นี่ก็มีให้ปิ้งเก๋ๆ ไว้ถ่ายรูปด้วย



นอกจากนี้ใครที่ชอบอาหารอิตาลีสไตล์ตามสั่ง แวะไปที่ร้าน Vapiano ได้ค่ะ เดินไปแถว 17 St. ไม่ไกลจากกันมาก

6. Washington Sq. จัตุรัสสำหรับส่องเด็กมหาลัย

       เส้นทางลงสถานี 8 St.NYU สาย 6 ได้เลยง่ายๆ  แล้วเดินตรงมา 2 บล็อก เลี้ยวซ้าย จะเจอจัตุรัสเล็ก ที่มีศิลปินมาเขียนพื้นด้วยสี มีคนมาวิ่งออกกำลังกาย มีหมาวิ่ง มีคนมาพลอดรัก  และมีผู้แซ่บๆมาจ้อกกิ้ง ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศชิวๆ กลองแวะมาที่นี่ได้ค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นที่นิยม หรือที่เที่ยวที่คนไทยจะไปกัน แต่ได้อารมณ์จริงนะจะบอก

   เราชอบมาจ้อกกิ้งที่นี่ เพราะใกล้ที่ทำงาน  ห่างแค่บล็อกเดียวเอง  หน้าหนาวจะสวยมากกก เพราะได้อารมณ์เปลี่ยวๆ เหงาๆ เบาๆ วิ่งไป ฟังเพลงไป จิ้นไป เริ่ดค่าาาา

7.Wall St. ถนนคนรวย ที่คนสวยต้องไป

เส้นทางนั่งสาย 4 5 จากยูเนียนสแควร์มา หรือจะนั่งสาย 2 3 จากไทม์สแควร์มาก็ได้ค่ะ  อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าถนนสายนี้ สวยและรวยมาก จะพบเห็นชายชุดดำ ใส่สูท ผูกไท รองเท้ามันจนส่องกระจกได้ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ทุกหนแห่ง  และแต่ละนางจะพรมน้ำหอม Hermes Gucci พองาม  เป๊ะเว่อออออ



พอเราเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอเจ้ากระทิง ซิกเนเจอร์ที่นี่ค่ะ เขาว่ากันว่าลูบไข่ ให้โชค  แต่กว่าจะลูบไล้ป้ายคลำได้นี่ ต้องแย่งกับนักท่องเที่ยวค่ะ  ดังนั้นความไวแสงการถ่ายรูปต้องมี  และลูบเข้าไปเยอะไค่ะ ให้สมกับที่รอคอย อุวะฮ่าๆๆๆๆ


พอได้สัมผัสพอหอมปากหอมคอ  เดินต่อไปเรื่อยๆ  แถวนี้จะเป็นย่านเศรษฐกิจนะคะ อีกนิดนึงตรง Canal St. ก็จะมี Century 21 ห้างลดราคาแบรนด์ดังสาขาที่ใหญ่ที่สุด   สาขาอื่นๆจะมีอีกตรง Lincoln center ทางเหนือ หรือแถว Rego Park ย่านควีนส์ก็มีค่ะ  ห้างนี้มีหมดทุกอย่าง ย้ำ ทุกอย่าง  ทั้งไฮเอน ไฮสตรีท มีหมดค่าา แต่ราคาเราว่าไม่ค่อยถูกนะ  ยกเว้นพวกน้ำหอมจะขายถูก ถูกกว่าพวก Perfumania อีกค่ะ ที่นี่ลดแลกแจกแถมเลยทีเดียว  ยิ่งถ้าจัดโปรนะ หืมมม อย่าให้พูด น้ำยายไหยย้อยยย

8. Soho ย่านช้อปของคนรุ่นใหม่
  ถ้าจะพูดกันตรงๆ 5 ave เปรียบเหมือนชิดลม ส่วน Soho คงเป็นสยาม  เพราะมีเสื้อผ้าหลายแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ทำเองของนิวยอค ซึ่งอย่าเข้าไปค่ะ เพราะหน้าจะซีด ปากจะสั่น เพราะมันสวยยมากก แต่แพงมากกกกก    ย่านนี้มีของน่ารักๆเยอะ และส่วนมากวัยรุ่นจะเดินค่ะ  แถวนี้มีร้านอาหารอิตาเลียนร้านนึง อร่อย และน่ารักมากก  เดินไปเกือบสุดทาง Soho จะมีบริกรมารับ มีออเดิฟเสิร์ฟขนมปัง เนยแพะ และมะกอก  อาหารเมนคอร์สนี่ก็ยุโรปเลยล่ะ  ราคาพอสมควร แต่อร่อยคุ้มค่า


9.Brooklyn Bridge  สะพานที่ทำไมใครๆต้องมาถ่ายรูป


พอขึ้นมาจากสถานี Brooklyn B. ก็จะสวยๆแบบนี้เลยค่าา แค่สถานีก็กินขาด สวยเว่อ อลังการเว่อ




 รอบๆสถานีจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ยิ่งตอนสปริงซัมเมอร์จะมีต้มไม้ออกดอก เขียวขจี สวยๆแบบนี้

พอออกเดินซึ่งตรงนี้ไม่ต้องเปิด map อะไรเลยค่ะ  เพราะทุกคนดูจะมุ่งหน้าสู่จุดหมายเดียวกัน 5555
ทางขึ้นสะพานบรูคลินจะมีภาพวาดอาร์ตขายอยู่ข้างทางแบบนี้


ตอนขึ้นไม่ใช่ขี้ๆน่ะก๊ะ ดังนั้นกรุณาแต่งตัวรัดกุมและสวมรองเท้าที่มันคล่องหน่อย จะได้เดินไปจนสุดทางแล้วถ่ายรูปกลับมาสวยๆได้ค่ะ

                                      สะพานสวยๆอยู่ข้างหน้าแร้วววว แว้ว วววว แว้ววว

พอเราข้ามตรงช่องนั้นมาได้  เราจะถ่ายรูปย้อนกลับไปค่ะ   ถ้ากล้าเสี่ยงชีวิตยื่นหน้าออกไปพอ จะได้รูปสวยๆแบบนี้

อันนี้ถ่ายให้เพื่อน สวยๆเสี่ยงตายค่ะ  
ที่เห็นเขียนๆอยู่นั้นคือเขียนสลักไว้ว่าใครมาทำอะไร  เหมือนคล้องกุญแจรักที่โซลอะไรเทือกนั้น ตอนนั้นไม่มีปากกา นางเลยควักอายไลเนอร์ออกมาเขียน  แค่นี้ก็พอจะรู้ว่าให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน ชิมิเคอะ


                                  แอบมีคนมาคล้องกุญแจแบบเกาหลีๆด้วยนะเนี่ยยย
พอเดินๆแล้วหิว ขอแนะนำร้าน Fishmarket  เดินมาแถว Abercombie and Fitch ค่ะ  จะสีร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ข้างนอกอาจจะดูไม่ค่อยเวิค แต่ด้านในบรรยากาศประมาณ Texas และที่สำคัญอร่อยมากกกก Oyster ตัวใหญ่เบ้ง แบบเพิ่งตายมา 30 วิ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม และยังไม่รวมอาหารทะเลอื่นๆ หืมมม ดูดหอย ด๊วฟๆ เป็นกิโลๆ เลยจ้าาา   ค่าเสียหายประมาณ 100 เหรียญแต่รับรองว่าคุ้มจนวันตายยย  เพราะนอกจากอาหารอร่อยเลิศ ลุงบริกรยังสุดยอด Service mind เพราะนางจะประเคนค็อกเทลรสเลิศมาทานคู่กับหอย และชวนคุยสนุกมากๆๆ

10. Liberty Island

   พอลงมาใต้สุดปุ๊บบบ อย่างที่รู้กันว่าเทพีเสรีภาพเป็นซิกเนเจอร์หนึ่งของคนมานิวยอค  แต่จริงๆแล้วนางแอบอยู่เยื้องไปทางน่านน้ำนิวเจอร์ซี  เราไม่ได้ลงไปที่เกาะค่ะ  เพราะไม่อยากเสียตังง จ๊ากกก   เลยลงเรือฟรีที่ได้เห็นนางเหมือนกัน  เรือขึ้นได้โดยนั่งสาย 1 ลงไปสุด South Ferry เลย  จะมีเรือฟรีออกตลอดๆหลายรอบ  สังเกตที่คนยืนรอกันเยอะๆ นั่นแหละของฟรี 555





                                    ของจริงเห็นมากกว่านี้ค่ะ  แต่ถ่ายมาได้แค่นี้จริงๆ T_T
พอขึ้นไปฝั่งนู้น รอแป๊บนึงกลับมาฝั่งเดิม  เราก็เดินลัดเลาะไปที่ Battery Park ค่ะ  จะเห็นวิวฝั่งนิวเจอร์ซี   แถวนี้เป็นสวนหย่อม และจะมีศิลาหลักใหญ่ๆ จารึกชื่อทหารผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจอยู่ด้วยค่ะ

และถ้าหากว่าอยากเห็นวิวอ่าวเจอร์ซีสวยๆจริงๆ  เดินเลาะริม Battery Park มาเรื่อยๆค่ะ ขึ้นเหนือมา
แถวเวิล์ดเทรด จะเห็นวิวที่สวยกว่า
ริมอ่าวสวยๆค่ะ  คนส่วนมากมาวิ่งออกกำลังอาย มาสวนสาธารณะ  ชมวิวริมอ่าวสวยๆกันค่ะ  นั่งกินอะไรเบาๆ ชิวๆ เจิดมากกก
11.ชมวิวริมอ่าวอีกครั้งที่ Long Island city
   การไปให้เดินใกล้สุดนั่งสาย 7 ค่ะลง Vernon Jackson เดินต่ออีก 2-3 บล็อกจะเห็นสวนหย่อมเล็กๆ  และวิวแมนฮัตตันทั้งเมืองจะอยู่ตรงหน้าคุณค่ะ  เราชอบตรงนี้เป็นพิเศษ เพราะบรรยากาศร่มรื่น สบายๆ เย็นๆ ทำให้เรารู้สึกด้คิดอะไรดี สมองแล่น แถมโรแมนติกด้วยนะ




                                พอดีว่าวันที่ไป มีคนมาจัดงานแต่งงานกันพอดีค่ะ  โรมแมนติกจรุงงง  
พอเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ เริ่มหิวแล้วเราก็นั่งรถไฟสาย 7 ไปลงรูสเวทค่ะ แล้วต่อสาย R ไปจนสุดสายที่ Forest Hill ที่นี่จะมีเค้กมื้อดึกชื่อร้าน Matha's  Bekery  ร้านนี่ต้อง Local จริงๆค่ะ  ใครที่รู้จักร้าน Magnolia ร้านเบเกอรี่ชื่อดังที่อยู่ในหนังเรื่อง Sex in the city นั้น ลืมมมไปได้เลยค่ะ เพราะถ้าคุณไม่ชอบเค้กที่หวานเจี๊ยบบละก็ เชิญมามาธ่า 


 บรรยากาศในร้าน จะเป็นร้านเล็กๆค่ะ แต่ผู้คนหนาแน่นเหมือนศึกกรุงทรอย 555 ต้องรอคิวกัน แล้วเข้ามานั่งเบียดในโต๊ะแคบๆ แต่กลิ่นเบเกอรี่ที่อบอวล ยิ่งข้างนอกอากาศเย็นๆแล้วด้วยย หื้มมม ยอมมมม

เค้กที่นีมีให้เลือกหลากหลายเลยค่า แต่ว่าจะไม่มีชื่อเค้กติดอยู่เลย  ถ้าอยากจะสั่งอะไรที่ไม่รู้ชื่อละก็ ต้องถ่ายรูปแล้วโชว์ให้พนักงานดู  สนนราคาเค้กร้านนี้ไม่แพงค่ะ  ราคา 5 เหรียญต่อชื้น แต่ชิ้นใหญ่ ห่อกลับบ้านกันได้เลยล่ะจะบอกกก


     ลงใต้จนเหนื่อยแล้ว  วันนี้เราจะมาขึ้นเหนือกันบ้างนะคะ 
12.Central Park มีอะไรดี ทำไมใครๆก็พูดถึงนะ หืมมมม

   วิธีการไป Central Park นั่นง่ายๆเลยค่ะ  นั่งสาย Q สีเหลืองได้ทั้งจาก Herald Sq. หรือไทม์สแควร์ก็ได้ค่ะ  ไปลงที่ 57 St. หรือถ้าอยากฟิตปึ๋งปั๋งก็เดินจาก 5 ave. ก็ได้ไม่ว่ากันน    เดินไปปุ๊บ สิ่งที่คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งเซนทรัล ปาร์คนี้คืออออ   "ขี้ม้า" กลิ่นนี่ โชยมาๆ นั่นแหละคุณถึงที่แล้วค่ะ ถึงที่เลยค่ะ
ในนี้จะกว้างมากกก  กินพื้นที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ตรง Columbus circle ไปจนถึง Bronx นู่นน และรอบๆนี้จะมีบ้านเรือน  มหาวิทยาลัย รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ ถึง 2 ที่ด้วยกันเลยค่ะ


เดินเข้ามาจะเป็นสะพานแบบนี้ มีอยู่หลายที่เลยค่ะ  นักท่องเที่ยวจะชอบมาถ่ายกันเป็นคู่ๆ เชอะะะ นอกพวกหล่อนจะมาถ่ายกันเป็นคู่ หล่อนยังใช้ให้ชั้น(ที่มาคนเดียว เปลี่ยวๆเนี่ยย) ถ่ายให้หล่อนอีกหรอยะ ช่างไม่มีความเมตตาในหมู่เพื่อนมนุษย์ T_T



เดินเข้ามาอีกจะเป็นสะพานอุโมงค์ และด้วยความเตี้ย  ไม่ว่าจะแหงน เงยแค่ไหน  ก็ได้แค่นี้ค่ะ  จงจินตนาการร ว่ามันเป็นอุโมงค์เหมือนหนังเรื่อง Autumn in my Heart โอเคนะทุกคนนน




   และด้วยความที่มาช่วงที่กำลังเปลี่ยนฤดูใบไม้ผลิ ฝนปรอยๆ ฟ้าครึ้มๆ กับคนเหงาๆ มาเดินในที่กว้างๆ คนรักกันเยอะๆ ก็พอจะเข้าใจอารมณ์คนโสด เชี๊ยะะะะ 


  พอเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเป็น ต้นไม้ คนวิ่ง คนเล่นกีต้าร์ คนปิ๊กนิ๊ก หมา ขี้ม้า แบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ  เดินๆอยู่ฝนก็ตก เราเลยแว๊บไปที่อื่นก่อน  หลังจากนั้นเวลามาก็ไม่ได้ถ่ายรูปเลย   เพราะเพื่อนนางชอบแซวว่า ถ่ายคลอโรฟิลทำไมเยอะแยะ  โอเค จบ  ไปที่อื่นกันก็ได้ เชอะ

13.Lincoln Center 
เดินทางโดยขึ้นซับเว สาย 1 สีแดงมาลงที่สถานี Lincoln center ได้เลยค่ะ


แถวนี้เป็นจตุรัสรูปปั้นประธานาธิบดีค่ะ  รอบๆไม่ค่อยมีอะไร  เป็นตึกสถาปัตยกรรมเก่าแก่หน่อย  และมีห้าง Century อยู่ ถ้าเดินลงไปหน่อยจะเป็น Columbus Circle  ซึ่งเย็นๆจะมีของอาร์ตๆมาขายหน่อยค่ะ  แต่ทางเหนือนี้ ส่วนมากตึกรามบ้านช่องจะเก่าๆ สวยๆ สไตล์ยุโรปหน่อย  ใครที่ชอบแบบอเมริกันผสมยุโรปจะชอบเดินแถวนี้ค่ะ เพราะถ่ายรูปสวยได้อามณ์ดี


14. Madison Park  ปาร์คที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ไปแล้วจะรักเลย
วิธีไป นั่งสาย 4 5 6 สายเขียวลง 28 St หรือ 33 St ก็ได้ค่ะ  ต่อมาจาก Grand central ได้ง่ายๆ มุ่งใต้เลยค่า


                  ที่จัตุรัสนี้วันที่มาเป็นงานมินิคอนเสิตกับลานเบียร์ตอนกลางวันค่ะ คนคึกคักมาก ขายดอกไม้กับครึกครื้น ที่นี่จะมีร้าน MAC อยู่ตรงหัวมุม และในจัตุรัสจะมีกระรอกน้อยมาคอยแย่งอาหารคนที่มากิน Shake Shack ร้านเบอร์เกอร์ซิกเนเจอร์ของนิวยอค   ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดเบอร์เกอร์ของจริง  เพราะเค้าไม่ได้ใช้เศษเนื้อมาทำ แต่เป็นเนื้อสเตค  มีเมนูให้เลือกหลายหลาย และแต่ละสาขาจะมีเมนูไม่เหมือนกันในส่วนของของหวานนะคะ   ส่วนเมนูยอดฮิตก็คือ Shackburger ที่มีเนื้อ ชีส และซอสพริกสูตรร้านนี้ อร่อยมากกก ส่วนใครอยากเพิ่มเบคอน หรือดับเบิ้ลก็เลือกใส่ได้ตามใจเลยค่ะ

               สำหรับราคานั้น แน่นอนว่าของอร่อยก็แพงหน่อยราคาก็ประมาณ 2 เท่าของแม็ค  แต่อร่อยคุ้มมาก  เนื้อหอมๆ นุ่มๆ ชีสแบบทะลักออกมา กินกับซอสพริก มีซอสมะเขือแกล้มหน่อย  บวกกับเฟรนฟรายที่นี่ที่กรอบนอก นุ่มใน อันใหญ่ หอมๆ และตบท้ายด้วยไอศกรีมสูตรประจำร้าน  สำหรับสาขาที่เมดิสันนี้ เป็นสาขาแรกของเชคแชค  ดังนั้นจะมีของพิเศษๆกว่าสาขาอื่นอยู่ค่ะ เช่น ไอศกรีม Hopscott อร่อยมากกก ฮาเกนดาส หรือแม้แต่เบนแอนเจอรี่ยังต้องหลบ  เพราะมันอร่อยล้ำค่าจริงๆๆๆ   แบบเป็นคาราเมล ที่มีอัลมอนอยู่หน่อย ขนาดเราไม่ชอบอัลมอนยังต้องยอม และกลิ่นนม เนย กลิ่นคาราเมลจากเนื้อไอศกรีมนุ่มละมุนลิ้น มันได้ใจมากๆ



พอออกจากเมดิสันสแควร์ป๊บ เราก็จะไปต่อกันที่

15. Rockefeller  สวยงามกลางกรุง

                       
  ขออนุญาตใช้รูปจาก google เพราะถ่ายยังไง ก็ไม่ได้แบบนี้สักทีค่ะ
ที่เห็นตามรูปนั้น สามารถมาจากสถานี Rockefeller ได้เลยค่ะ เป็นตึกเดียวกับ Top of the rock นั่นแหละ ตรงนี้จะเปลี่ยนการตกแต่งไปตามฤดูนะคะ  หน้าร้อนจะเป็นต้นไม้ จัดสวน แต่หน้าหนาวจะเป็นลานไอซ์สเกตแบบนี้ค่ะ   รอบๆเป็นที่นั่งสำหรับคนมารับประทานอาหาร  ส่วนรอบๆจัตุรัสนี้ จะเป็นร้านแบรนด์เนมทั้งหลายแหล่  เพราะนางตั้งอยู่ตรง 5 ave. เลยจ้าา  ดังนั้น ตรงข้ามร็อคกี้นี้ จะเป็นห้าง Saks fifth avenue ห้างที่หรูที่สุดในนิวยอคเลยล่ะ  เพราะมี Couture               




                                                                               
                                                                 ภาพช่วงหน้าร้อนค่ะ  


   ทุกร้านที่เป็นไฮเอน เยอะมากๆๆๆ  แขวนๆ ยังกับบิ๊กซี ซูปเปอร์เซนเตอร์ จัดแสง จัดสี กระเป็า Valentino Givenchy Lanvin และอื่นๆ วางชั้นๆ แบบไม่ต้องมีห้องกระจกอะไรเลยล่ะค่ะ  พอคุณเดินเข้าไป  เข่าคุณจะทรุด หน้าคุณจะซีด ปากจะขมุบขมิบ เพราะประตูห้างมันหนักมากกก   ต้องใช้พลังลมปราณ และเปล่งเสียงว่า ฮึบบ  อ่ะ เข้าไปได้ ภายในเป็นเค้าเตอร์น้ำหอม เครื่องสำอาง บลาๆ กรุณาอย่าใส่รองเท้าแตะเข้าไปเลยนะคะ  แม้ว่าคุณจะเซลฟ์แค่ไหนก็ตาม เพราะที่นี่มันหรูกว่าพารากอน 18 เท่า แล้วปูพรมแดงตลอด  ขนาดที่เราอยากจะคลานเข่าเข้าไปทีเดียว กลัวพรมเปื้อนนน   
                 ส่วนใครอยากขึ้นไปดู Top of the rock ค่าเข้า 45 เหรียญค่าา ปิดประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ

16.Lexington 53 St. เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุด


ถนนสายนี้ตอนแรกเราเดินผ่านบ่อยมากกก แต่ไ่ยักกะสนใจเลยค่ะ แต่หลังๆเวลาเดินแล้วพอสังเกตรอบๆตัว ก็ได้พบว่า อาาาาห์  เจ้าก็มีดีนะเนี่ย  ที่นี่ตามถนนเป็นร้านแบรนด์ต่างๆ ผู้คนที่ผ่านไปมา ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว แต่จะเป็นคน Local ซะส่วนมาก  เป็นถนนที่ไม่พลุกพล่านมาก แต่สวยค่ะ ให้อารมณ์นิวยอคจริงๆ ใครที่อยากสัมผัสอาการเหม่อมองฟ้า มองข้างทาง ข้ามถนนแบบชิวๆ มองเงาตัวเองสะท้อนในกระจกร้านหรู  เชิญที่เล็กซิงตั้น อะเวนิวว

     เดินเรื่อยๆพอครึ้มอกครึ้มใจแล้วก็โยกย้ายส่ายสะโพกมาขึ้นซับเวสาย 7 สุดสายไป Flushing กันเล้ยย
17. Flushing ย่าน China town ตัวจริงของนิวยอค

                                                                 credit ภาพจาก google
ที่นี่ทุกอย่างเป็นภาษาจีน ร้านป๊อบอาย ร้าน burger king หรืออะไรก็ตาม จีนหมดค่ะ  และมีแต่คนจีน เต็มไปหมดเลย  ข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เป็ด หมั่นโถว เป็นอะไรที่หาง่ายและถูกมากๆด้วยค่ะ  ถ้าสั่งเป็ดย่างนี่จะได้มาเป็นตัวๆเลย   และร้านเด็ดแถวนี้  ไม่ใช่ใครอื่น  แต่เป็นร้าน บุฟเฟ่อาหารญี่ปุ่นที่ราคาหัวละ 32 เหรียญเท่านั้น รวมค่า service charge แล้วด้วยนะ  อื้มมม  อยากรู้ชื่อแล้วล่ะสิ อิอิอิ
  ร้าน Nori nori  เป็นร้านที่มีขาปูอลาสก้าและหอยตัวโต  มีอาหารให้เลือกมากมายเป็นสไตล์แบบ International buffet เบาๆ ค่ะ
ที่นี่รับประมาณได้ทั้ง lunch หรือ dinner กินได้ทีละ 3 ชั่วโมง  แต่แค่ชั่วโมงแรกก็จอดแล้วจ้าาา  เพราะปลาดิบเอย ปลาหมึกเอย เทมปุระ เค้ก ปุอลาสก้า ราเมน ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าบวกกับกลิ่น ทำให้เรากินๆๆๆๆ ไม่ลืมหูลืมตา สรุปว่าอื่มตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกเลออ แป่วว แบบนี้เรียกว่ากินไม่โปรค่ะ

       ส่วนใครที่อยากสัมผัสอาหารญี่ปุ่นจริงๆต้องไปลองร้าน River Japanese restaurant 
ร้านนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เสียดายจัง  แต่จะเป็นร้านที่สั่งอาหารต่างหากก็ได้ หรือจะกินบุฟเฟ่ก็ได้  แต่ที่นี่จะไม่ใช่แบบที่ให้เราเดินไปตักค่ะ  แต่อารมณ์มีเมนูให้เราเขียนว่าอยากกินอะไร  เค้าจะไปทำให้แล้วเอามาเสิร์ฟเราเอง หน้าที่ของเราคือ นั่งอยู่กับที่ ถือตะเกียบ และกินๆๆๆๆ  ร้านนี้ให้เวลากิน 1 ชั่วโมง 45 นาทีค่ะ  อาหารอร่อยมากกก  โดนเฉพาะตระกูล Roll อร่อยสุดจะบรรยาย  เพราโรลที่นี่เขาใส่ชีส มายองเนส และครันชี่ๆ ที่ใส่แล้วลงตัวอร่อยจนลืมวันลืมคืนน  ที่นี่ต้องให้ค่าทิปเด็กเสิร์ฟค่ะ และราคาช่วง lunch กับ dinner ไม่เท่ากัน สนนราคา Lunch 25 เหรียญ  dinner 29 ไม่รวมทิปและ service charge นะคะ

        ขอเล่าตบท้ายนิดนึงว่า ใครที่รู้จักร้าน Ichiumi ร้านญี่ปุ่นร้านดังย่าน Korean town ลืมไปได้เลยค่ะ ร้านนั้นไม่อร่อยเท่าไรเลยค่ะ แต่มีให้เลือกเยอะอย่างเดียว  และพนักงานบริการไม่ทั่วถึง  เพราะคนไปกินเยอะ ( ร้านดัง นักท่องเที่ยวรู้จักเยอะ) แล้วอาหารไม่ค่อยสดด้วยนะคะ  ให้ข้อมูลไว้พิจารณากันตรงๆเลยจ้าา
ปล. เวลากินข้าวร้านอาหารที่นี่ บังคับให้ทิป 15 เปอร์เซ็นต์นะคะ  ถ้าให้ไม่ครบ คุณจะยังไม่ได้ออกจากร้าน จนกว่าจะควักตังค์ออกมาจ่ายครบน่ะก๊ะ

        อิ่มกันจนจุกแล้ว วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ  เดี๋ยววันหลังจะพาไปชมพิพิธภัณฑ์และมหาวิทยาลัยชื่อก้องโลกก โก้กก โก้กก

     

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Work and Travel ตอนที่ 1 เที่ยวยังไงให้เก๋ไก๋ใน New York City

    สำหรับใครที่อยากไปใช้ชีวิตมันส์ในนิวยอคสักเดือนสองเดือน สักปีสองปี หรือสักวันสองวัน ตามแต่อัธยาศัยแล้วนั้น   สิ่งที่คุณขาดไม่ได้เลยคือออ แท่น แท๊นนน มือถือที่มีสัญญาณอินเตอร์เนตค่ะ  เพราะทุกย่างก้าวที่เดินไป ถ้ายังไม่โปรละก้อ หึ หึ หึ มีแต่หลงกับหลงแน่ๆๆๆ   เพราะไม่ว่าคุณจะใช้ชีวิตในแบ๊งค่อกมาตั้งแต่เกิด  หรืออยู่ในชนบทอันเงียบสงบมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยหลอด ( เหมือนอิชั้น ) ก็ตาม  คุณไม่สามารถจะมาหยิ่งมาชั้นสวย รวยมาก ฉลาด เก๋ไก๋ ไฮโซ ได้ที่นี่ เพราะที่นี่ มีคนที่สวยกว่า เก่งกว่า ฉลาดกว่า ไฮโซกว่า เคร๊!!!

       มาต่อเรื่องมือถือ  ที่นี่เรามีเครือข่ายให้คุณได้เลือกสรรหลากหลายยิ่งกว่ารสมาม่า  ที่ดังๆก็มี Verizon  At&t และ T-mobile  แต่สำหรับเด็กน้อยตาดำๆอย่างเรา T-mobile น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด  สำหรับรายเดือน ที่ถูกกว่า เน็ทเยอะ และก็โทรได้เท่าๆกัน   เราใช้บริการ 70 เหรียญ unlimited คุยได้ไม่อั้น และก็เน็ทไม่อั้น 4G LTE แล้วก็ บวกพิ่ม 15 เหรียญ โทรกลับไทยไม่อั้น อ๊าา ว๊าวๆๆๆ ช่ายแบ้วววว สุดยอดดมั้ยล่ะ โทรกลับไทยเท่าไรก็ได้ จ่ายแค่ 500 บาท เริ่ดเว่ออ  โปรโมชั่นถูกกว่าอยู่ที่ไทย

   App ที่จำเป็นต้องโหลดไว้เป็นสมบัติล้ำค่า คือ NYC Subway ไว้ดูการต่อรถไฟต่างๆ และ Transit แอพนี้จะบอกว่ารถไฟสายไหนจะถึงที่ไหน ภายในเวลาเท่าไร สะดวกมากเวลาเดินทางเผื่อเวลาค่ะ

        เมื่อมือถือพร้อม ใจพร้อม กายพร้อม เราทำได้ ฮัดช่าาาา  ไปลุยกันเลยยย





เริ่มจากการเที่ยวสถานที่โหลๆที่ใครก็ต้องไป  ขอบอกก่อนว่า คนไทยส่วนมากมักจะไปพักกันแถวเอมเฮิท Elmhurst ดังนั้นเราก็ขอเล่าการเดินทางจากจุดนั้นนะคะ  เพื่อความเข้าใจง่าย  และเผื่อหลายคนจะไปจริงๆ
1. Time Sq.  Signature ของนิวยอค ที่อยู่ไปนานๆคุณจะรู้ว่า มันไม่ต่างอะไรกับ "อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"
การเดินทาง : สาย R M F E นั่งตรงถึงไทม์สแควร์เลยจ้าา




พอโผล่ขึ้นมาบนซับเว ซึ่งมีหลายทาง แต่เลือกทางที่ขึ้นตรง 42 broadway  7 ave อะไรเทือกๆนั้น จะเดินใกล้กับจุดที่เห็นในหนัง สถานีนี้ใหญ่ ถ้าเดินหลงไป port authority จะเดินไกล ดังนั้น ดูกลุ่มคนไว้ แล้วทางออกแจ่มๆ จะชอบมีวงดนตรีเปิดหมวกมาเล่นน่ะก๊ะ  พอขึ้นมาก็จะเห็นอะไรแบบนี้  มีนักท่องเที่ยวเยอะมากกก   ร้านดังๆในเมกาก็จะขายกันแถวนี้เยอะ  แต่อย่าไปซื้อนะ  เพราะแถวนี้ไม่ค่อยเซลล์ เรื่องช้อปปิ้งเด๋วว่ากันอีกที แบบมหากาพย์เลยนะคะ


       ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆ  พอเห็นจอทีวียักษ์ กับอัฒจรรย์สีแดงนั้น จะเป็นที่เขาถ่ายรูปกัน  จะมีพวกแต่งตัวเลียนแบบนู่นนี่ (เรียกว่าอะไรฟระ นึกไม่ออก) มาวนเวียนจะถ่ายด้วย  แต่อย่าไปให้เขาถ่ายนะ มิฉะนั้นจะเสียตังค์ฟรี 5-10 ดอล เลยนะตัวเทอวววว  พอเดินตรงมาเรื่อยๆ จะมี Toy R Us ใหญ่บึ้ม  กับ M&M World



ใน m&m ไม่ค่อยมีไรมาก ก็มีแต่ช็อคโกแลตหลายแบบ ( เออวว ร้านมันขายช็อคโกแลต จะให้มีแชมพูเหรอคะ..จ้ะ ) เข้าไปแป๊บนึง ซื้อช็อคโกแลตมาถุงนึงก็ออกมาค่ะ

ต่อไปเราเดินย้อนกลับไปทางเดิมทีวีจอยักษ์  เลี้ยวเข้าซอย 30 กว่า จำไม่ได้ เลยตึก lion king มาตึกหนึ่ง จะเป็นถนน Broadway หมายถึงถนนโรงละครเลยค่ะ มีโรงละครเรื่องคลาสสิกต่างๆให้เลือกสรร
แต่ๆๆ หากคุณจะดูจริงๆ สามารถไปดูตั๋วลดราคาตรงอัฒจรรย์สีแดงได้  แต่ละวันจะมีเรื่องต่างๆกันไปมาลดราคาที่นั่งเวลาที่ละครใกล้แสดง

อันนี้เป็นโรงละคร Phantom of the Opera ให้ถ่ายก่อนแสดงค่ะ  เรื่องนี้เหมาะสำหรับสตรีมีจินตนาการ  เพราะเป็นเรื่องรักที่ลึกซึ้ง บางตอนก็แอบหลับบ้าง เพราะไม่ค่อยอินกับหนังโรแมนติกดราม่าเท่าไร  แต่ร้องเพราะมากกก มากก มากก แอ๊คติ้งชนะเลิศค่ะ

    ออกจากโรงละครซอยนี้  เราเดินหันหลังกลับไป  เดินไปอีกหน่อย  จะมีอีกซอยที่มีมาดามทุซโซ่ มี Yangee ขาย และสิ่งที่ต้องประสงค์เรา แทน แท๊นน โรงละคาอะลาดินน


    สำหรับเรื่องอะลาดิน กับไลออนคิง เป็นบรอดเวย์ของดิสนีย์ ไม่มีบัตรลดราคาค่ะ หาเท่าไรก็ไม่มีค่ะ  เพราะนางมั่นหน้าว่านางขายหมดทุกรอบ ไม่ต้องง้อใคร โถ่ววว เอ๊ย จะดีแค่ไหนกัน ยอมค่ะ เสียไป 200 กว่าเหรียญนั่งหน้าเชียวล่ะ  ตอนซื้อถามคนขายว่าชัดมากป่าว หรือห่างจกเวทีอีก คนขายนางบอกว่า ไม่ว่าจะเหงื่อหรือขนนกจากชุดนางเอก ยูวก็จะได้เห็น อ่ะโธ๊ๆๆๆๆ  มาๆๆ มาดู



   โรงละครหรูมาก  ได้บัตร VIP เพราะซื้อตั๋วแพง  และๆๆ มันดีเลิศประเสริญศรีมณีเด้งซ้ายเด้งขวาเด้งหน้าเด้งหลัง เด้งดั้งอลังการรรร  มันเลิศศ  นางเอกสวยมาก นางร้องเพลงเพราะมาก พระเอกหล่อเลิศอะลาดินสุดๆ หุ่นเซี๊ยะ เสียงน่าโซ้ยย โอ้ยย ดีไปหมด จินนี่คือแบบ ตลกมากกกกกก   ถ้ากลับมาจะเสียตังดูอีกรอบเลยอ่ะ บอกเลยยย


   พอได้อิ่มเอิบกับการดูละครบรอดเวย์ เดินเซอเวทางแถมไทม์สแควร์แล้ว  เราก็ลงซับเว เดินทางไปต่อกันกับ Herald Sq. อีกหนึ่งแสคว์ของ Signature หลายที่เลยจ้าา

2. Empire State Building  ยังไงๆก็คล้ายบรรหาร แจ่มใสอยู่ดี

การเดินทาง หากท่านมาจาก Time Sq. นั้นหมูๆเลยจ้าา เพราะอยู่สถานีติดกัน N Q R F มาหมด หรือถ้าอยากออกกำลังกายก็เดินมาได้นะจะบอกให้

      อยู่แถว Herald Sq. ค่ะ ที่มีห้าง Macy's ใหญ่อยู่  empire นี้เราไม่ได้ขึ้นไป  เพราะว่าบัตรแพง  และขึ้นไปดูวิวเฉย เรามีที่ดูวิวสวยๆแล้ว เดี๋ยวจะบอกอีกทีหนึ่งนะ  แต่ใครที่อยากไปก็ไปลงเฮอเริล แล้วเดินเอาไม่ยากค่ะ ใกล้ๆกัน   ส่วนห้างเมซี่นี้  จะมีอีเว้น บางวันหยุดจะมีการรวมกลุ่มเต้นละตินกัน ฮัดช่าาา อก เอว สะโพก ส่ายสะโพก ไม่เอาเอว ฮึบบ เราไปร่วมเต้น ร่วมแจมกับลุงๆป้าได้นะคะ ไม่เสียกะตังจ้าา พอขำๆ  จัตุรัสนี้ จะมีทั้ง ZARA  Victoria Secret Levi's  Foot Locker หรือแบรนด์เมกาอื่นๆ ให้เลือกซื้อ
   บางช่วงจะมีงานอีเว้นเก๋ๆ เช่น  งานอาหารนานาชาติให้เรามาชิม  แต่ แต่ แต๊ แต่ อย่าไปหลงคมรมณ์ความ Cute ของมันเลย Crepe กากๆของประเทศไรสักอย่าง มันไม่สุก ทาเนย กับน้ำตาลที่ไม่ยอมหวาน แล้วเอาตังเจ๊ไปตั้ง 7 เหรียญ แงงงงๆๆๆ



ก็เดินตรงต่อกันไปที่ Korean Town บอกเลยว่ามานิวยอคต้องไม่พลาดที่นี่ เพราะนอกจากอาหารเกาหลีจะอร่อยกว่าที่เกาหลี ( เอ่า งงๆๆๆ จริงๆไม่หลอกบอกเลย) แล้วผู้ยังแซ่บมากกกก มากถึงมากที่สุด พระเอกในซีรีย์นี่หลบไปเลย  เพราะโอป้าแถวนี้บางกลุ่มเป็นลูกครึ่งเมกา เกาหลี ดังนั้นนางแต่งตัวดี มีชาติสุดๆ  เดินมานี่เหลียวหลัง เรียก โอปป้า เบาๆ ส่งสายตาปิ๊งๆให้ แต่ใครจะมาสนใจหล่อนยะ ไม่ดูหนังหน้าเลยยย ( บอกตัวเองเบาๆโน๊ะ)


                                                สภาพร้านบาร์ กินเบียร์กับไก่เหมือนในหนัง
  เดินพอเอาความโนเนะ  เราก็ไปต่อกันที่....
3.Fifth Ave. ถนนไฮโซ เก๋โก้

เนื่องจากฟิฟอะเวนิว เป็นถนนสายยาว จะนั่งสาย 7 มาลงที่  Brant Park ก็ได้ หรือจะลง 53 St สาย F จาก Rockefeller ก็ได้ค่ะ เดินทะลุกัน  หากคุณมาจาก 53 St. จะเห็นโรงแรมหรู รถม้า และ Apple Store กระจกใต้ดิน และร้านขายของเล่น FOQ นั่นแหละ  ร้านนี้จะเป็นร้านน่ารักๆค่ะ มีขนมเยอะมาก เยลลี่สีรุ้งเป็นแผ่นๆอร่อยมาก  และยังมีช้อป Built a bear อยู่ข้างในด้วย   ร้านนี้เราสามารถทำตุ๊กตาได้เองเลย เลือกแบบ ยัดนุ่น แต่งตัว แถมยังตั้งชื่อให้ได้ด้วยนะ มีวันเกิด ใบสูจิบัตรให้ติดตามตัวหมีได้ทั่วโลก อะไรจะไฮโซขนาดน๊านน ชั้นเกิดมาตั้งนาน สูจิบัตรยังไม่หรูเท่าแกเลยนะหมีนะ ;) ถ้าสังเกตเห็นร้านเหล่านี้ มาถูกทางแล้ว  แถวนี้ร้านหรู เต็มมาก แน่นมากก  เดินตรงมาเลย จะเห็นทั้ง Bergdorf goodman ,Barney New York  ที่ขายของ Hi-end  รวมถึง Nike Town  ที่ขายแต่ไนกี้ ค่ะ ก็มันชื่อ เมืองไนกี้โน๊ะ  ใหญ่มาก หลายชั้น  เดินมาเรื่อยๆมี ช็อป แบรนด์ดัง ทุกยี่ห้อที่จะนึกออก



     เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเห็น Sephora สวยๆ  แล้วพอถึงหัวมุมร้าน ZARA ปุ๊บ  ตรงหน้าคุณคือ ห้องสมุดประชาชน ที่ใช้ถ่ายหนังเรื่อง Gossip Girl


  เข้าฟรีค่ะแต่เปิดถึงแค่ 4 โมงเย็น  พอเข้าไป จะร้อง หูววววว  เพราะมันสวยมากกก  สวยเกินจะเป็นห้องสมุด เห็นแล้วอยากนอนกลิ้งไปกับพื้น
                                       อันนี้วอลเปเปอร์ฝาผนังเค้า  อลังการวังเว่อเจรงๆๆ

                                                                ป้ายชื่อคนอุทิศต่างๆ

    ในห้องสมุดเงียบมากกค่ะ ในห้องหนังสือนี่ยิ่งเงียบ ไม่กล้าเข้าไปเลย เราก็เดินจากมาเงียบๆ
พอออกมา  เดินตรงไปนิด เลี้ยวขวา จะเจอกับ NYU Center ที่เรียนเรา  และด้านหน้าคือ Brant Park  ช่วงซัมเมอร์จะสวย ดูอบอุ่นมาก เพราะชาวนิวยอคเกอร์จะมาปิ๊กนิ๊กกัน


                                   สวนสาธารณะเล็กๆ ที่ไว้ทำอีเว้นท์เบา และก็นั่งพักท่ามกลางตึกสูง


  พอนั่งพักจนหายเหนื่อแล้ว  พระอาทิตย์ก็เริ่มจะตกดิน   สิ่งนี้แหละที่เรารอคอยยย  Next Station  is....
4. Roosevelt Island เกาะคนรวย ที่สวยแบบช่วยไม่ได้
การจะไปนั้น เรานั่งซับเวไปลงที่ Lexington 59 St นั่งสาย N Q R มายังไงก็ได้ค่ะ  3 สายนี้ หาง่ายอยู่แล้วจากในตัวเมือง   พอมาถึงต้องเดินต่ออีกประมาณ 3-4 บล็อก ก็จะเห็นทางขึ้นกระเช้า  ไม่ต้องเสียเงินนะจ๊ะ งาฟรีต้องมาา 555 ใช้บัตร Metro card ที่ซื้อมาได้เลยจ้าา  ขึ้นตอนกลางวันจะเห็นวิวแมนฮัตตันสวยๆ แบบนี้

    แต่ตอนกลางคืนจะสวยกว่าค่ะ  แต่ว่าถ่ายรูปมาไม่สวยเหมือนตาเห็นเลย กระซิกๆๆ

 
อันนี้ข้ามมาที่เกาะแล้ว  ไม่มีแหล่งช้อป ชิ อะไรนะคะ  จะเป็นคอนโดที่อยู่อาศับสงบๆ สวยๆ ประสาคนมีตัง  แต่หันหน้าไปเห็นวิวแมนฮัตตันทั้งเกาะเลยจ้าา  สวยมากก จริงๆ บอกเลย
   ฟ้ามืดสนิทแล้วค่าา เราก็นั่งสาย F มีสายเดียวนะคะ กลับไปฝั่งควีนส์ ลง Roosevelt ต่อสาย 7 ไปก็ได้หรือจะนั่งต่อไปลง Elmhurt ที่อยู่ถิ่นคนไทยเลยก็ได้ค่าา

        สำหรับทริปวันนี้พอเท่านี้ก่อนนะคะ  พรุ่งนี้ สถานีต่อไป Liberty island ไปยังไงไม่เสียตัง ชมวิวอ่าวแมนฮัตตัน Wall St. ถนนคนรวย และ Brooklyn Bridge สะพานที่ทำไมใครๆก็ต้องมา

         ++++ อย่าลืมแวะมาอ่านน้าค้าาาา+++++